อย่างที่รู้ๆ กันว่าอากาศในประเทศไทย เริ่มจะแปรปรวนขึ้น บางที่ก็ฝนตก บางที่ก็ร้อนมาก และมาไม่ตรงตามฤดูที่เคยเป็นมาด้วย จนทำให้เราไม่สามารถมั่นใจได้กับฤดูต่างๆ ในเดือนนี้จะมีกี่ฤดู แต่สิ่งจะเป็นปัญหาคือ ร่างกายของเราจะปรับตัวไม่ทัน อาจส่งผลต่อร่างกายได้ง่ายครับ
คุณเคยสงสัยเหมือนผมไหมว่า ต้นเหตุของไข้หวัด เกิดจากอะไรกันแน่ บางเวลาที่ผมโดนฝน จนเปียกทั้งตัว บางครั้งก็ทำให้ผมเป็นไข้หวัด แต่ในบางครั้งอาการก็ปกติดี สิ่งที่รู้ คือ การเป็นไขหวัดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอนใช่ไหมครับ
ซึ่งจะส่งผลในการทำงานไม่ใช่น้อยเลย จะทำอะไรก็ลำบากไปหมด และเราก็ไม่รู้ด้วยว่า ไข้หวัดจะหายดีเมื่อไร บางครั้งพอรู้สึกอาการจะดีขึ้น คิดว่าพรุ่งดีคงจะดีขึ้น แต่ผลที่ออกมาคือ กลับแย่ลง ผมเชื่อว่าทุกคน เคยสัมผัสอาการแบบนี้กันหมดใชไหมครับ ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
แต่สิ่งที่เราทำได้คือ แก้ที่จุดเริ่ม ที่ทำให้เราเป็นไข้หวัด โดยจะเป็นวิธีการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเราได้ เป็นทางเดียวที่เราพอจะทำได้ การป้องกันจะมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน จะมีวิธีอะไรบ้าง ดูเนื้อหาเพิ่มเติมน่ะครับ
เปียกฝน บ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องดี ต้นเหตุของไข้หวัด ร่มตัวช่วย! ที่สำคัญ
2.เปียกฝน อีกหนึ่งสาเหตุการเป็นไข้หวัด
4.ร่มเป็นตัวช่วย ที่สำคัญอย่างไร
1.โรคไข้หวัด คืออะไร
โดยหลักๆ แล้ว ไข้หวัด(Common Cold) จะให้ความหมายว่า โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เช่น จมูก กล่องเสียง คอ และไซนัส ซึ่งจะก่อให้เกิดไขหวัดจะเป็นไวรัสชนิดไม่ร้ายแรงมากนัก สามารถหายใจได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากเกินมากว่านั้น หรืออาการไข้หนักผิดปกติ ต้องไปปรึกษาแพทย์โดยทันที
ไข้หวัดจะเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด และติดต่อกันง่ายที่สุด จะเป็นที่โรคที่ไม่ก่อเกิดปัญหามากมายนัก แต่หากเกิดในช่วงวัยเด็ก และคนอายุมากๆ หรือผู้ที่มีโรคเรื้อนรังประจำตัว หากปล่อยซะอย่างนั้น ก็อาจทำให้เป็นโรคร้ายแรงได้ครับ ไม่ควรปล่อยให้อาการป่วยเราหายนานจนเกินไป ให้รีบรักษาโดยเร็วที่สุด
2.เปียกฝน อีกหนึ่งสาเหตุการเป็นไข้หวัด
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยกันหมด เวลาตากฝนนานๆ เปียกไปทั้้งตัวจากน้ำฝน พอผ่านไปสักพัก เริ่มมีอาการตามมา เช่น ตัวร้อน อาการหนาวสั่นทั้งตัว เวียนหัว คัดจมูก และอื่นๆ นั้นจะเป็นสัญญาณว่า เริ่มมีอาการป่วย และไข้หวัดแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากไวรัส ไวรัสจะมีเป็นร้อยชนิดที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้ ไวรัสเหล่านี้จะกระจายทั่วในอากาศ แล้วตกลงสู่พื้น หรือเกาะตามฝุ่น
คุณอาจสงสัยว่าทำไหม ช่วงฤดูฝนโอกาสเป็นไข้หวัดกันมากกว่าฤดูอื่นๆ เพราะก่อนฝนจะตกนั้น มักจะมีกระแสลมพัดแรง ลมเหล่านี้ ที่จะกระจายไวรัสปริมาณมาก หากเราอยู่ในบริเวณนั้นช่วงฝนตก โอกาสที่จะสัมผัสไวรัสในปริมาณมากเลยครับ และเสี่ยงที่จะเป็นไข้หวัดได้ง่าย
ดังนั้นพยายามสังเกตุช่วงฤดุฝนให้ดี หรือพยายามดูการพยากรณ์อากาศไว้จะดีเลยครับ จะได้ตั้งตัวได้ทัน ไม่ว่าจะเป็นการหลบในที่โล่งแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์การป้องกันไวรัสชนิดต่างๆ
3.วิธีการป้องกันจากไข้หวัด
ทุกคนอาจจะทราบกันแล้วใช่ไหมครับว่า ไวรัสนั้นเป็นต้นเหตุของการเป็นไข้หวัด และคงจะทราบแล้วใช่ไหมครับว่า ไวรัสนั้นกระจายไปทั่วอากาศ ซึ่งไข้หวัดจะเกิดตอนไหนเราเองก็ไม่รู้ใชไหมครับ จะดีกว่าไหมหากเราป้องกันไวรัสชนิดต่างๆ ที่จะเข้าสู่ร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ หรือการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง วิธีเหล่านี้จะช่วยป้องกันไวรัสชนิดต่างๆ ได้ดี จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น มีดังนี้ครับ
- พยายามพกพาร่มติดตัว
จะหน้าฝนหรือหน้าร้อน ร่มจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมาโดยตลอด ที่จะค่อยให้ประโยชน์กับผู้ใช้ได้มาก ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณะการแบบไหน ร่มก็สามารถเอาอยู่ ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนที่คนส่วนมากมีอาการป่วยและเป็นไข้หวัดกันมาก ร่มจะอุปกรณ์หนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดี - หากร่างกายเปียกฝนอยู่ ทำให้ร่างอบอุ่นลง
หากคุณโดนฝนเปียกโชกอยู่ ควรทำให้ร่างกายอบอุ่นไห้โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้าน หรืออยู่สถานที่ใดก็ตาม ก็ไม่ควรให้ตัวเปียกซะอย่างนั้น ซึ่งจะทำให้ร่างกายเรามีโอกาสเกิดอาการป่วยได้ง่ายขึ้น - ไม่ควรตากฝนนานเกินไป
การตากฝนนานๆ ทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน เพราะจะทำให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิลดลง และความต้านทานของร่างลดลงไปด้วย ซึ่งจะเป็นสาเหตุของอาการป่วยได้ง่ายนั้นเองครับ - กินและดื่มอาหารที่เสริมความต้านทานให้กับร่างกาย
ถ้าพูดถึงของกินหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย คงจะนึกภาพของกิน และเครื่องดื่มที่มีรสชาติที่แย่ ทุกคนคิดเหมือนผมไหมครับ ฮ่าๆๆ แต่ยังมีน่ะครับ สิ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายที่มีรสชาติที่ดียังมีอยู่ครับ แต่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายรสชาติจะแย่หน่อย อย่างสุภาษิตไทย “ หวานเป็นลม ขมเป็นยา ” สิ่งเหล่าจะช่วยเสริมความต้านทานให้กับร่ากายได้ครับ - เล่นกีฬาและออกกำลังกาย
การเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายเป็นประจำนอกจากเสริมบุคลิคภาพที่ และร่างกายแข็งแรง ยังเสริมภูมิต้านทานในร่างกายได้ด้วย จะช่วยลดโอกาสป่วยได้ในระดับหนึ่ง - นอนหลับให้เพียงพอ
ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเรา จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากร่างกายของเราทุกคน ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และในขณะที่เราได้นอนหลับพักผ่อนอยู่นั้น ร่างกายของเราก็จะได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่อยากป่วยเป็นไข้หวัด ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง
4.ร่มเป็นตัวช่วย ที่สำคัญอย่างไร
อย่างที่รู้กันว่าร่มสามารถใช้ในหน้าฝน หรือหน้าร้อนได้อย่างดี เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ แล้วยิ่งสภาพอากาศในประเทศไทยเป็นแบบนี้ ร่มจึงเหมาะในการใช้งาน พกไว้อย่างน้อยก็สามารถป้องกันสภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นได้ เพื่อสุขภาพร่างกายของเราเอง สุขภาพยังไงก็เป็นสิ่งสำคัญกับตัวเรามาก หากสุขภาพร่างกายของเราแย่ลง จะทำอะไรก็ลำบากไปหมด ไม่ใช่เรื่องดีเลยหากปล่อยให้เกิดขึ้นกับตัวเรา
หากคิดว่าพกพาร่มแล้วจะสร้างความลำบากเปล่าๆ แล้วไม่คิดบ้างว่า หากเราเกิดป่วยขึ้นมา มันจะยิ่งลำบากมากกว่าน่ะครับ แล้วร่มสมัยนี้ พกพากับตัวได้ง่ายกว่าเดิมครับ ด้วยมีขนาดเล็ก และน้ำหนักที่เบา พกใส่กระเป๋าได้สบายเลย พกร่มไว้อย่างน้อยทำให้คุณอุ่นใจได้ครับ
5.การรักษาอาการป่วยให้หายเร็ว ควรทำอย่างไร
อาการของคนส่วนใหญ่ ที่เคยเป็นมาก่อน หรือขณะเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ ซึ่งจะมีอาการที่แตกต่างกัน บางครั้งไข้ขึ้นสูง จนลุกแทบไม่ไหว และในบางครั้งไข้ไม่สูง แต่กลับหายช้า และอาการอื่นๆ อาการป่วยเหล่านี้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย หากปล่อยให้อาการป่วยหายช้ายิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นเรามีวิธีช่วยให้อาการป่วยให้หายเร็วขึ้นครับ
- ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำอุ่นเยอะๆ จะช่วยขจัดเชื้อโรคออกจากร่างกาย
- นำผ้าแล้วชุบน้ำอุ่น แล้วมาเช็ดตัว หรือตั้งบนหน้าผาก
- กินอาหารที่เป็นประโยชน์ ที่สามารถย่อยได้ง่าย เช่น ปลา ผัก ผลไม้
- กินยาลดไข้ ให้ตรงต่อเวลา หรือมีอาการปวดหัว ให้กินยาทันที อย่าปล่อยให้ปวดอยู่อย่างนั้น
- ไม่ควรเปิดพัดลมแรงเกินไป หรือเปิดแอร์ให้เย็น เพราะจะทำให้เราร่างกายหนาวสั่น อาการอาจจะแย่ไปกว่าเดิม
- ไม่ควรออกจากบ้าน ด้วยอาการภายนอก เต็มไปด้วยเชื้อโรคและไวรัสทั่วอากาศ อาจทำให้อาการแย่ลง
- พักผ่อนเยอะๆ ถ้าไม่สบาย ตัวร้อน ปวดหัว และอ่อนเพลีย ต้องนอนพักผ่อนให้เยอะ ๆ อย่าออกไปตากแดด ตากลม เพราะเดี๋ยวไข้จะยิ่งขึ้นสูงไปอีก
6.สรุป
การที่เรารู้ต้นเหตุของปัญหานั้นๆ แล้วค่อยๆ ปรับแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นของวันข้างหน้า แน่นอนว่าจะเป็นสิ่งที่ดีให้กับตัวเราได้อย่างแน่นอน ไม่เสียเปล่า ปัญหาต่างๆ ก็จะลดลง ปัญหาในหน้าฝนก็เช่นกันครับ เป็นอีกหนึ่ง ต้นเหตุของไข้หวัด และอาการป่วย เชื่อว่าทุกคนคงรู้ดีว่าการที่เปียกฝนบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีโดยที่อาการเหล่านี้จะมาไม่ทันตั้งตัว ทั้งๆ ที่เรารู้ถึงปัญหาของฝนตกแล้ว ที่เป็นต้นเหตุของสาเหตุที่ทำให้เราป่วย อย่างน้อยป้องกันเพื่อรับมือกับฝนที่จะตกลงมา เพื่อลดโอกาสที่จะทำให้เราป่วยได้น้อยลง