เมื่อเราไปที่สระว่ายน้ำตามโรงแรม หรือรีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาว แม้กระทั่งตามภาพยนตร์ หรือสื่อต่างๆ มักจะพบเห็นร่มชนิดหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า ร่มสระว่ายน้ำ ที่มักจะเรียงรายกันอย่างสวยงาม ชวนให้หลายคนอยากมาสัมผัสความสวยงามของร่มดังกล่าว
ร่มสระว่ายน้ำ เป็นร่มขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างทำมาจากไม้ชนิดเนื้อเเข็ง โดยมีต้นกำเนิดจากหมู่บ้านบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อในการผลิตร่มอย่างมาก นอกจากนี้ในส่วนของฐานและขาตั้งยังมีการผลิตจากไม้เนื้อแข็งเช่นเดียวกับโครงร่ม ผ้าร่มนั้นจะมีการใช้ผ้าโพลีอ๊อกฟอร์ด 600D
ซึ่งร่มชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีความแข็งแรง ทนทาน เพราะด้วยโครงสร้าง ฐาน ขาตั้งนั้น มีการผลิตจากไม้เนื้อแข็งหลายชนิด เช่น ไม้เต็งรัง ไม้นำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยกระบวนการผลิตจากเครื่องมือกล การกลึงไม้ การเจาะ ที่ต้องใช้ความประณีตอย่างมาก หลังจากนั้นจึงต้องมีการทาสีด้วยแล็กเกอร์ เพื่อให้มีการรักษาเนื้อไม้ คงความสวยงามของเนื้อไม้ และมีอายุการใช้งานได้อีกยาว
ส่วนการนำไปใช้ ร่มริมสระว่ายน้ำมักจะนำไปใช้ตามรีสอร์ท โรงแรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นริมสระว่ายน้ำ ลานหญ้ากว้าง สวนหลังบ้าน เพราะด้วยร่มชนิดนี้มีความทนทานในเรื่องของโครงสร้าง ที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง และกระบวนการผลิตที่ประณีต การลงแล็กเกอร์ เพื่อจะคงความสวยงามของเนื้อไม้ และช่วยยืดอายุการใช้งานไปอีกนาน จึงทำให้ร่มดังกล่าวนี้ ได้รับความนิยมไปใช้ตามสถานที่ต่างๆ อย่างแพร่หลาย
ข้อควรระวังในการใช้ร่มริมสระว่ายน้ำ
สิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง สำหรับการใช้ร่มริมสระว่ายน้ำ คือ กระแสลมในช่วงฤดูมรสุมที่กำลังเกิดอยู่ในช่วงขณะนี้ ที่กระแสลมพัดแรง อาจจะทำให้ร่มเกิดการโค่นล้มลงได้ หากโครงสร้างและฐานนั้น ไม่แข็งแรง หรือมั่นคงพอ ดังนั้นทางที่ดีควรที่จะมีการหล่อปูนบริเวณฐานและขาตั้งของร่ม แล้วตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม หรือไม่ก็อาจจะตั้งร่มในบริเวณที่ลมแรงที่เข้าไม่ถึง
ขนาดของร่มริมสระว่ายน้ำ
ซึ่งขนาดของร่มริมสระว่ายน้ำ ปกติแล้วมีอยู่ 2 ขนาด รัศมีอยู่ที่ 40 นิ้ว (เส้นผ่านศูนย์กลาง 200 เซนติเมตร) และ รัศมีอยู่ที่ 50 นิ้ว (เส้นผ่านศูนย์กลางที่ 250 เซนติเมตร)
ดีไซน์ของร่มริมสระว่ายน้ำ
โดยทั่วไปแล้วร่มริมสระว่ายน้ำ มักจะมีสีพื้น ไม่มีประดับลวดลาย เพื่อที่จะทำให้เกิดความภูมิฐาน เรียบหรู มองแล้วสบายตา โดยเฉดสียอดนิยม คือ สีครีม สีควันบุหรี่ สีวานิลลา เพราะเฉดสีเหล่านี้ถูกจัดในกลุ่มสีโทนอ่อน ที่มักจะไม่ค่อยดูดซับความร้อน เหมือนกับสีเข้ม ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย ไม่ทำให้อึดอัด
ร่มริมสระว่ายน้ำ ร่มสนาม ต่างกัน หรือเหมือนกันอย่างไร ?
ซึ่งร่มริมสระว่ายน้ำ ร่มสนามเสาข้าง ร่มสนามตัวแอล ร่มสนาม ที่จริงแล้วก็มีชื่อเรียกเหมือนกันตามลักษณะของโครงสร้างร่ม แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะมีความแตกต่างในบริบทของวัตถุประสงค์ในการใช้งาน หรือสถานที่ที่ใช้งาน เช่น หากร่มมีการตั้งไว้ริมสระว่ายน้ำ ก็จะมีการเรียกว่า ‘ร่มสระว่ายน้ำ’ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการนำไปใช้ตามลานสนามหญ้า หรือบริเวณสวนหย่อม ตามรีสอร์ทต่างๆ ก็จะเรียกว่า ‘ร่มสนาม’ ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อเหล่านี้ไม่ได้เป็นชื่อทางการของร่มชนิดนี้สักเท่าไหร่
ซึ่งแท้จริงแล้วร่มมีชื่อเรียกจริงๆ ว่า ‘ร่มสนามไม้เนื้อแข็ง’ เพราะว่า ร่มชนิดนี้มีชื่อเรียกของร่มสนาม โดยมีการนำไปใช้เพื่อป้องกันแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นการถือ หรือตั้งวางบนพื้นสนามหญ้า ลานหญ้ากว้าง ส่วนของโครงของร่มนั้นมีการผลิตจากไม้เนื้อแข็ง หรือไม้ไผ่ โดยมีคุณสมบัติที่ให้ความแข็งแรง ทนทาน สามารถยืดอายุการใช้งานได้อย่างยาวนาน
ร่มสนามเสาข้าง ร่มสนามตัวแอล ต่างกัน หรือเหมือนกันอย่างไร ?
ส่วนร่มเสาข้าง ถือเป็นร่มขนาดใหญ่ มักจะใช้สถานที่กลางแจ้ง หรือ Outdoor เช่น สวนอาหาร ร้านอาหาร โรงแรมรีสอร์ท โรงแรม สนามหญ้า สวนหย่อม สระว่ายน้ำ เป็นต้น โดยมีขนาด 3 x 3 เมตร รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สามารถป้องกันแสงแดดได้อย่างรอบด้าน 360 องศา
ร่มสนามตัวแอล ก็มีความคล้ายคลึงร่มเสาข้าง แต่ต่างกันตรงที่ว่าร่มสนามตัวแอล ตัวโครงเหล็กนั้น จะมีการยื่นออกมาในส่วนที่ยื่นเหล็กด้านบนที่ห้อยตัวโครงร่ม ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับเสาไฟฟ้าริมถนนนั่นเอง โดยมีความพิเศษคือ ร่มบางรุ่นนั้นสามารถปรับการขึ้น-ลงได้ตามทิศทางของแสงแดด ซึ่งจะสามารถป้องกันแสงแดดได้อย่างรอบด้านเช่นเดียวกัน โดยร่มชนิดนี้นั้น จะให้ความรู้สึกที่หรูหรา แต่เรียบง่าย ทำให้ผ่อนคลาย
ร่มสนามเสาข้าง ร่มสนามตัวแอล ร่มสนาม ร่มสระน้ำ ราคาเท่าไหร่ ?
โดยปกติแล้วร่มสนามโล่งนั้น จะเริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต แต่ถ้าหากเป็นโครงที่ทำจากไม้เนื้อแข็งนั้น อาจจะมีราคาที่สูงขึ้นมาที่ 3,000 บาท – 5,000 บาท ขึ้นไป แต่อย่างไรก็ด้วยความที่มีหลากหลายขนาดนั้น อาจจะมีราคา 2,500 / 3,500 / 4,500 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแหล่งจำหน่ายด้วย อาจจะมีการจัดโปรโมชั่นส่วนลดก็ได้